พัฒนาการเด็กปฐมวัย
พัฒนาการของเด็กปฐมวัยด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสติปัญญาแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามวุฒิภาวะและสภาพแวดล้อมที่เด็กได้รับ พัฒนาการเด็กในแต่ละช่วงวัยอาจเร็วหรือช้าแตกต่างกันไปในเด็กแต่ละคน
๑. พัฒนาการด้านร่างกาย เป็นพัฒนาการที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของร่างกายในด้านโครงสร้างของร่างกาย ด้านความสามารถในการเคลื่อนไหว และด้านการมีสุขภาพอนามัยที่ดี รวมถึงการใช้สัมผัสรับรู้ การใช้ตาและมือประสานกันในการทา กิจกรรมต่างๆ เด็กอายุ ๓-๕ ปี มีการเจริญเติบโตรวดเร็วโดยเฉพาะในเรื่องน้า หนักและส่วนสูง กล้ามเนื้อใหญ่จะมีความก้าวหน้ามากกว่ากล้ามเนื้อเล็ก สามารถบังคับการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ดี มีความคล่องแคล่วว่องไวในการเดิน สามารถวิ่ง กระโดด ควบคุมและบังคับการทรงตัวได้ดีจึงชอบเคลื่อนไหว ไม่หยุดนิ่ง พร้อมที่จะออกกา ลังและเคลื่อนไหวในลักษณะต่างๆส่วนกล้ามเนื้อเล็กและความสัมพันธ์ระหว่างตาและมือยังไม่สมบูรณ์ การสัมผัสหรือการใช้มือมีความละเอียดขึ้น ใช้มือหยิบจับสิ่งของต่างๆได้มากขึ้น ถ้าเด็กไม่เครียดหรือกังวลจะสามารถทา กิจกรรมที่พัฒนากล้ามเนื้อเล็กได้ดีและนานขึ้น
๒. พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ เป็นความสามารถในการรู้สึกและแสดงความรู้สึกของเด็ก เช่นพอใจไม่พอใจ รัก ชอบ สนใจ เกียด โดยที่เด็กรู้จักควบคุมการแสดงออกอย่างเหมาะสมกับวัยและสถานการณ์ เผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ ตลอดจนการสร้างความรู้สึกที่ดีและการนับถือตนเอง เด็กอายุ ๓-๕ ปีจะแสดงความรู้สึกอย่างเต็มที่ไม่ปิ ดบัง ช่อนเร้น เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธแต่จะเกิดเพียงชั่วครู่แล้วหายไปการที่เด็กเปลี่ยนแปลงอารมณ์ง่ายเพราะมีช่วงความสนใจระยะสั้น เมื่อมีสิ่งใดน่าสนใจก็จะเปลี่ยนความสนใจไปตามสิ่งนั้น เด็กวันนี้มักหวาดกลัวสิ่งต่างๆ เช่น ความมืด หรือสัตว์ต่างๆ ความกลัวของเด็กเกิดจากจินตนาการ ซึ่งเด็กว่าเป็นเรื่องจริงสำหรับตน เพราะยังสับสนระหว่างเรื่องปรุงแต่งและเรื่องจริง ความสามารถแสดงอารมณ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสมกับวัย รวมถึงชื่นชมความสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น เพราะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางน้อยลงและต้องการความสนใจจากผู้อื่นมากขึ้น
๓. พัฒนาการด้านสังคม เป็นความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมครั้งแรกในครอบครัวโดยมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่และพี่น้อง เมื่อโตขึ้นต้องไปสถานศึกษา เด็กเริ่มเรียนรู้การติดต่อและการมีสัมพันธ์กับบุคคลนอกครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กในวัยเดียวกัน เด็กได้เรียนรู้การปรับตัวให้เข้าสังคมกับเด็กอื่นพร้อมๆกับรู้จักร่วมมือในการเล่นกับกลุ่มเพื่อน เจตคติและพฤติกรรมทางสังคมของเด็กจะก่อขึ้นในวัยนี้และจะแฝงแน่นยากที่จะเปลี่ยนแปลงในวัยต่อมา ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าพฤติกรรมทางสังคมของเด็กวัยนี้ มี ๒ ลักษณะ คือลักษณะแรกนั้น เป็นความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่และลักษณะที่สองเป็นความสัมพันธ์กับเด็กในวัยใกล้เคียงกัน
๔. ด้านสติปัญญา ความคิดของเด็กวัยนี้มีลักษณะยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง ยังไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น เด็กมีความคิดเพียงแต่ว่าทุกคนมองสิ่งต่างๆรอบตัว และรู้สึกต่อสิ่งต่างๆ เหมือนตนเอง ความคิดของตนเองเป็นใหญ่ที่สุด เมื่ออายุ ๔-๕ ปี เด็กสามารถโต้ตอบหรือมีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุสิ่งของที่อยู่รอบตัวได้ สามารถจาสิ่งต่างๆ ที่ได้กระทาซ้ากันบ่อยๆ ได้ดี เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น แต่ยังอาศัยการรับรู้เป็นส่วนใหญ่ แก้ปัญหาการลองผิดลองถูกจากการรับรู้มากกว่าการใช้เหตุผลความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวพัฒนาอย่างรวดเร็วตามอายุที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของพัฒนาการทางภาษา เด็กวัยนี้เป็นระยะเวลาของการพัฒนาภาษาอย่างรวดเร็ว โดยมีการฝึกฝนการใช้ภาษาจากการทากิจกรรมต่าง ๆ ในรูปของการพูดคุย การตอบคาถาม การเล่าเรื่อง การเล่านิทานและการทากิจกรรมต่าง ๆ ท เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาในสถานศึกษา เด็กปฐมวัยสามารถ ใช้ภาษาแทนความคิดของตนและใช้ภาษาในการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่นได้คาพูดของเด็กวัยนี้ อาจจะทาให้ผู้ใหญ่บางคนเข้าใจว่าเด็กรู้มากแล้วแต่ที่จริงเด็กยังไม่เข้าใจความหมายของคาและเรื่องราวลึกซึ้งนัก
ตัวบ่งชี้
ตัวบ่งชี้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาเด็กที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์จานวน ๑๒ มาตรฐาน โดยเลือกตัวบงชี้ในแต่ละมาตรฐานให้สอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้และนาไปจัดประสบการณ์ผ่าน 6 กิจกรรม โดยมาตรฐาน ๑๒ มาตรฐาน ประกอบด้วย
๑.พัฒนาการด้านร่างกาย ประกอบด้วย ๒ มาตรฐานคือ
มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี
มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและประสาน
สัมพันธ์กัน
๒.พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย ๓ มาตรฐานคือ
มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข
มาตรฐานที่ ๔ ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว
มาตรฐานที่ ๕ มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม
๓.พัฒนาการด้านสังคม ประกอบด้วย ๓ มาตรฐานคือ
มาตรฐานที่ ๖ มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และความเป็นไทย
มาตรฐานที่ ๘ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมใน
ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
๔.พัฒนาการด้านสติปัญญา ประกอบด้วย ๔ มาตรฐานคือ
มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย
มาตรฐานที่ ๑๐ มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานการเรียนรู้
มาตรฐานที่ ๑๑ มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้
เหมาะสมกับวัย
การเรียนในครั้งนี้อาจารย์ให้ทำแผนการจัดประสบการณ์ตามหน่วยของแต่ละกลุ่มแล้วอาจารย์อธิบายและคอยให้คำแนะนำ
1) เนื้อหา
อาหารหลัก5หมู่ ประโยชน์ของอาหารหลัก5หมู่ การทำแซนวิส
อาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ไม่มีประโยชน์
2) แนวคิด ให้เด็กได้รู้จักอาหารที่มีประโยชน์
ได้แก่อาหารหลัก5หมู่
3) ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
|
ด้านอารมณ์-จิตใจ
|
ด้านสังคม
|
ด้านสติปัญญา
|
-การใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่เล็กกล้ามเนื้อมัดเล็ก
-การเคลื่อนไหวอยู่กับที่และเคลื่อนที่
|
-การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง
-การทำกิจกรรมศิลปะต่างๆ
-การสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม
-การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น
|
-การมีปฏิสัมพันธ์ มีวินัย
มีส่วนร่วมและบทบาทสมาชิกของสังคม
-การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรม
-การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของห้องเรียน
|
-การฟังเพลง คำคล้องจอง
-การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเองหรือพูดเล่าเรื่อง
-การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านท่าทาง
|
แผนการจัดประสบการณ์
อ.3/1
กิจกรรมเสริมประสบการณ์
วัตถุประสงค์
|
สาระการเรียนรู้
|
กิจกรรมการเรียนรู้
|
สื่อ/แหล่งเรียนรู้
|
การวัดและประเมินผล
|
การบูรณาการ
|
สาระที่ควรเรียนรู้
|
ประสบการณ์สำคัญ
|
1.
เด็กสามารถท่องคำคล้องจองอาหารหมู่ที่ 1 และหมู่
2
2.
เด็กสามารถบอกประโยชน์ของอาหารหลักหมู่ที่ 1
และหมู่ที่ 2 ได้
3. เด็กสามารถแยะประเภทอาหารหลักหมู่ที่ 1
และหมู่ที่ 2 ได้
4. เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นและสนทนากับครูได้
|
อาหารหลัก
5 หมู่
- อาหารหลักหมู่ที่ 1
- อาหารหลักหมู่ที่ 2
หมู่ที่ 1 โปรตีน
ประกอบด้วย
เนื้อสัตว์ต่างๆ
นม ไข่ ถั่วเมล็ดแห้งและงา
ประโยชน์
-ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต
-ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต
ประกอบด้วย
ข้าว
แป้ง น้ำตาล เผือก มัน
ประโยชน์
- ให้พลังงาน
- ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
|
ด้านร่างกาย
1.1.2
การใช้กล้ามเนื้อเล็ก
5.การหยิบจับการใช้กรรไกรการฉีกการตัดการประและการร้อยวัสดุ
ด้านอารมณ์ จิตใจ
1.2.4
การแสดงออกทางอารมณ์
1.การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น
ด้านสังคม
1.3.4 การมีปฏิสัมพันธ์มีวินัยมีส่วนร่วมและบทบาทสมาชิกของสังคม
2.การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของห้องเรียน
3.การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ
1.3.5 การเล่นและทำงานแบบร่วมมือร่วมใจ
1.การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ด้านสติปัญญา
1.4.1 การใช้ภาษา
3.การฟังเพลงนิทานคำคล้องจองบทร้อยกรองหรือเรื่องราวต่างๆ
4.การพูดแสดงความคิดความรู้สึกและความต้องการ ถ้าการพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเองหรือพูดเล่าเรื่องราว
1.4.2 การคิดรวบยอดการคิดเชิงเหตุผลการตัดสินใจและแก้ปัญหา
18.การมีส่วนร่วมในการลงความคิดเห็นจากข้อมูลอย่างมีเหตุผล
|
ขั้นนำ
- เด็กและครูท่องคำคล้องจอง “อาหารหลักหมู่
1 และหมู่ที่ 2” (ไม่ทราบนามผู้แต่ง)
หมู่ 1 กินเนื้อนมไข่ ถั่วเมล็ดช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
หมู่ 2 ข้าว แป้ง เผือก มัน
อีกทั้งน้ำตาลช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
สองหมู่ที่เราร็จักนั้นล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย
-เด็กและครูสนทนาเนื้อหาในคำคล้องจองอาหารหลักหมู่ที่ 1และหมู่ที่ 2
-ครูถามเด็กว่าว่าคำคล้องจองพูดถึงอะไรบ้าง
ขั้นสอน
1. เด็กและครูสนทนาเนื้อหาในคำคล้องจองอาหารหลัก 1 และ
2 หมู่
2. เด็กและครูสนทนาเกี่ยวกับอาหารหลักหมู่ที่ 1
และหมู่ที่ 2 พร้อมนำภาพวงล้ออาหารหลัก 5 หมู่ ให้เด็กๆ ดูและสังเกตอาหารหลักหมู่ที่ 1
และหมู่ที่ 2
-ครูมีแผ่นชาร์จอาหารหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2
และมีรูปภาพอาหารมาให้เด็กๆดูแล้วให้เด็กออกมาติดว่าอยู่หมู่อะไร
และเขียนว่ามีประโยชน์อย่างไร
- เด็กและครูสนทนาทบทวนอาหารหมู่ที่ 1 และหมู่ที่
2 ว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง มีประโยชน์อย่างไร
|
-แผ่นชาร์จ
|
สังเกตพฤติกรรม
1. ท่องคำคล้องจองอาหารหลัก 1และหมู่ที่ 2 ได้
2. บอกประโยชน์ของอาหารหลักหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ได้
3. แยกประเภทอาหารหลักหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ได้
4. แสดงความคิดเห็นและสนทนากับครูได้
|
-
คณิตศาสตร์
-
วิทยาศาสตร์
|
การสะท้อนตนเองหลังการสอน..............................................................................................................................................................................................................................................................................................
แผนการจัดประสบการณ์
ชั้น....อนุบาล3/1 กิจกรรม เสริมประสบการณ์
วัตถุประสงค์
|
สาระการเรียนรู้
|
กิจกรรมการเรียนรู้
|
สื่อ/แหล่งเรียนรู้
|
การวัดและประเมินผล
|
การบูรณาการ
|
สาระที่ควรเรียนรู้
|
ประสบการณ์สำคัญ
|
1.เด็กสามารถท่องคำคล้องจองกินผักผลไม้
ได้
2.
เด็กสามารถบอกประโยชน์ของอาหารหลักหมู่ที่ 3
และหมู่ที่ 4 ได้
3. เด็กสามารถแยกประเภทอาหารหลักหมู่ที่ 3
และหมู่ที่ 4 ได้
4. เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นและสนทนากับครูได้
|
อาหารหลัก
5 หมู่
-อาหารหลักหมู่ที่ 3
-อาหารหลักหมู่ที่ 4
หมู่ที่ 3 แร่ธาตุ
ประกอบด้วย ผักต่างๆ
ประโยชน์
-ทำให้ร่างกายแข็งแรงมีความต้านทานโรค
-ช่วยให้อวัยวะต่างๆทำงานปกติ มีกากใยมากทำให้มีระบบขับถ่ายที่ดีและทำงานปกติ
หมู่ที่ 4 วิตามิน
ประกอบด้วย ผลไม้ต่างๆ
ประโยชน์
- บำรุงผิวพรรณ ทำให้ร่างกายแข็งแรงมีความต้านทานโรค
- มีกากใยมากทำให้มีระบบขับถ่ายที่ดีและทำงานปกติ
|
ด้านร่างกาย
การใช้กล้ามเนื้อเล็กในการหยิบจับ
ด้านอารมณ์ จิตใจ
1. การแสดงออกทางอารมณ์
2.การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น
ด้านสังคม
1.การมีปฏิสัมพันธ์มีวินัยมีส่วนร่วมและบทบาทสมาชิกของสังคม
2.การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ
3.การเล่นและทำงานแบบร่วมมือร่วมใจ
4.การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ด้านสติปัญญา
1.การใช้ภาษา
2.การฟังเพลงนิทานคำคล้องจองบทร้อยกรองหรือเรื่องราวต่างๆ
3.การพูดแสดงความคิดเห็นรู้สึกและความต้องการ
|
ขั้นนำ
-
เด็กและครูร่วมกันท่องคำคล้องจอง ผัก ผลไม้
(ไม่ทราบนามผู้แต่ง)
กินผักผลไม้
ร่างกายแข็งแรง กินแล้วแก้มแดง
มีแรงแข็งขัน
มีทั้งผักกาด คะน้า กวางตุ้ง
ผักบุ้งนั้นหนา
เกลือแร่มากมาย
ผลไม้นานา
มีส้ม มังคุด
องุ่น
ลำไย แอปเปิลนั้นไซร้ ให้วิตามิน
ขั้นสอน
1. เด็กและครูสนทนาเนื้อหาในคำคล้องจองกินผักผลไม้ และถามเพิ่มเติมนอกเหนือจากสิ่งที่อยู่ในคำคล้องจอง
2.เด็กและครูสนทนาเกี่ยวกับอาหารหลักหมู่ที่ 3 และหมู่ที่
4 และนำวงล้ออาหารหลักหมู่ที่ 3 และหมู่ที่4
ให้เด็กดูโดยใช้คำถามดังต่อไปนี้
“เด็กๆคิดว่าอาหารหลักหมู่ที่3 และหมู่ที่4ประกอบด้วยอะไรบ้างและแต่ละหมู่มีประโยชน์อย่างไร”
นำผักผลไม้ของจริงมาให้เด็กดู
3.ครูมีแผ่นชาร์ตตารางอาหารหมู่ที่3และ4
มีรูปภาพอาหารให้เด็กออกมาติดจำแนกว่าอยู่หมู่ที่เท่าไหร่
ขั้นสรุป
- เด็กและครูสนทนาทบทวนอาหารหลักหมู่ที่ 3
และหมู่ที่ 4 ว่าประกอบอะไรบ้างและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
|
-แผ่นชาร์ต
-ผักผลไม้ของจริง
-ภาพผักผลไม้ต่างๆ
|
สังเกตพฤติกรรม
1ท่องคำคล้องจองผักผลไม้ได้
2.
บอกประโยชน์ของอาหารหลักหมู่ที่ 3
และหมู่ที่ 4 ได้
3. แยกประเภทอาหารหลักหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 4 ได้
4. แสดงความคิดเห็นและสนทนากับครูได้
|
|
การสะท้อนตนเองหลังการสอน..............................................................................................................................................................................................................................................................................................
แผนการจัดประสบการณ์
ชั้น..อนุบาล3/1 กิจกรรม.เสริมประสบการณ์
วัตถุประสงค์
|
สาระการเรียนรู้
|
กิจกรรมการเรียนรู้
|
สื่อ/แหล่งเรียนรู้
|
การวัดและประเมินผล
|
การบูรณาการ
|
สาระที่ควรเรียนรู้
|
ประสบการณ์สำคัญ
|
1.เด็กสามารถท่องคำคล้องจอง อาหารหมู่ที่ 5 ได้
2.เด็กสามารถบอกประโยชน์ของอาหารหลักหมู่ที่ 5ได้
3.เด็กสามารถแยกประเภทอาหารหลัก 5 หมู่ได้
4.สามารถแสดงความคิดเห็นและศึกษากับครูได้
|
อาหารหลัก
5 หมู่
- อาหารหลักหมู่ที่ 5 หมู่ที่ 5 ไขมัน
ประกอบด้วย
ไขมันจากพืชและสัตว์
ชีท เนย
ประโยชน์
ให้พลังงานแก่ร่างกาย
สะสมไขมันไว้ใต้ผิวหนังตามส่วนต่างๆให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายและร่างกายจะดึงออกมาใช้เมื่อจำเป็น
ช่วยดูดซึมวิตามินชนิดละลายไขมัน อันได้แก่ วิตามินเอ ดี อีและเค
|
ด้านร่างกาย
1.1.2 การใช้
1.กล้ามเนื้อเล็กการหยิบจับ
ด้านอารมณ์ จิตใจ
1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
1.การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น
ด้านสังคม
1.3.4 การมีปฏิสัมพันธ์มีวินัยมีส่วนร่วมและบทบาทสมาชิกของสังคม
3.การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ
1.3.5 การเล่นและทำงานแบบร่วมมือร่วมใจ
1.การร่วมสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ด้านสติปัญญา
1.4.1
การใช้ภาษา
4.การพูดแสดงความคิดเห็นรู้สึกและความต้องการ
1.4.3
จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
1.การรับรู้และแสดงความคิด
ความรู้สึกผ่านสื่อวัสดุของเล่นและชิ้นงาน
|
ขั้นนำ
- เด็กและครูร่วมกันท่องคำคล้องจองอาหารหมู่ที่
5
(ไม่ทราบนามผู้แต่ง)
ไขมันจากพืชและสัตว์ช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย
มีทั้งน้ำมันงา
น้ำมันข้าวโพด น้ำมันงาจากเมล็ดถั่วต่างๆ
และยังมีไขมันจากสัตว์
น้ำมันหมู น้ำมันเนย น้ำมันวัวล้วนช่วยดูดซึมวิตามินในร่างกายของเรา
ขั้นสอน
1.เด็กและครูสนทนาเนื้อหาในคำคล้องจองอาหารหลัก 5หมู่
2.เด็กและครูสนทนาเกี่ยวกับอาหารหลักหมู่ที่ห้าและนำวงล้ออาหารหลัก 5หมู่ ให้เด็กดูโดยใช้คำถามดังนี้
เด็กๆคิดว่าอาหารหลักหมู่ที่
5ประกอบด้วยอะไรบ้าง”
“อาหารหลักหมู่ที่ 5 มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง”
3.ให้เด็กช่วยกันหาสื่อจำลองในมุมบ้านมาจัดหมวดหมู่ร่วมกัน
4.ครูบันทึกลงในผังกราฟิกอาหารหลัก 5หมู่
ขั้นสรุป
- เด็กและครูสนทนาทบทวนอาหารหลักหมู่ที่ 5
ว่าประกอบอะไรบ้างและมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
|
-
แผ่นชาร์ต
-
ผังกราฟิกอาหารหลัก 5 หมู่
- สื่อในมุมบ้าน
|
สังเกตพฤติกรรม
1.ท่องคำคล้องจอง อาหารหลัก 5หมู่ได้
2.บอกประโยชน์ของอาหารหลักหมู่ที่ 5ได้
3.แยกประเภทอาหารหลัก 5 หมู่ได้
4.แสดงความคิดเห็นและศึกษากับครูได้
|
-
คณิตศาสตร์
- วิทยาศาสตร์
|
การสะท้อนตนเองหลังการสอน..............................................................................................................................................................................................................................................................................................
แผนการจัดประสบการณ์
ชั้น..อนุบาล3/1....กิจกรรมเสริมประสบการณ์.
วัตถุประสงค์
|
สาระการเรียนรู้
|
กิจกรรมการเรียนรู้
|
สื่อ/แหล่งเรียนรู้
|
การวัดและประเมินผล
|
การบูรณาการ
|
สาระที่ควรเรียนรู้
|
ประสบการณ์สำคัญ
|
1.เด็กสามารถบอกส่วนผสมและอุปกรณ์ที่ใช้ทำแซนวิช
5 สหาย
2.เด็กสามารถประกอบอาหารเมนูแซนวิช 5 สหายได้
3.เด็กสามารถบอกประโยชน์ของเมนูแซนวิช5สหายได้
4.เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
|
แซนวิช5สหาย
ประกอบไปด้วยขนมปัง เนื้อไก่ ปูอัด ผักสลัด มายองเนส และมะเขือเทศ
|
ด้านร่างกาย
1.การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่
ด้านอารมณ์-จิตใจ
2.การพูดสะท้อนความคิดเห็น
ด้านส้งคม
3.การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน
ด้านสติปัญญา
4.การใช้ภาษา
5.การฟังและปฏิบัติตามคำสั่ง
|
ขั้นนำ
-ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเรื่องอาหารหลัก5หมู่
พร้อมแนะนำอาหารที่จะทำ คือ cooking แซนวิช5สหาย
ขั้นสอน
1.เด็กและครูร่วมกันแนะนำวัตถุดิบในการทำcooking
2.เด็กและครูร่วมกันสาธิตการทำแซนวิชตามขั้นตอน
3.ครูแบ่งกลุ่มให้เด็กช่วยกันทำcooking
4.เด็กรับประทานแซนวิช5สหาย
5.ช่วยครูเก็บอุปกรณ์หลังทานเสร็จ
ขั้นสรุป
-เด็กและครูร่วมกันสรุปถึงอาหารหลัก5หมู่และแซนวิช5สหาย
|
ขนมปัง
ผักสลัด
ข้าวโพด
เนื้อไก่
มายองเนส
มะเขือเทศ
ปูอัด
มีด
/ เขียง
|
สังเกตพฤติกรรม
1.บอกส่วนผสมและอุปกรณ์ที่ใช้ทำแซนวิช
5 สหาย
2.ประกอบอาหารเมนูแซนวิช5หาย
3.บอกประโยชน์แซนวิช5สหายได้
4.ทำงานกลุ่มร่วมกับผู้อื่น
|
-ภาพถ่าย
-วิดีโอ
-ชาร์ตวัตุดิบและขั้นตอน
|
การสะท้อนตนเองหลังการสอน..............................................................................................................................................................................................................................................................................................
แผนการจัดประสบการณ์
ชั้น..อนุบาล3/1 กิจกรรม.เสริมประสบการณ์
วัตถุประสงค์
|
สาระการเรียนรู้
|
กิจกรรมการเรียนรู้
|
สื่อ/แหล่งเรียนรู้
|
การวัดและประเมินผล
|
การบูรณาการ
|
สาระที่ควรเรียนรู้
|
ประสบการณ์สำคัญ
|
1.เด็กสามารถเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้
2.เด็กสามารถจำแนกอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ไม่มีประโยชน์ได้
3.เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นและสนทนากับครูได้
|
การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
เช่น นม ข้าว ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์
การหารที่ไม่มีประโยชน์
เช่น ลูกอม น้ำอัดลม ขนมขบเคี้ยว
|
ด้านร่างกาย
1.ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการหยิบจับ
ด้านอารมณ์
2.การพูดแสดงความรู้สึก
ด้านสังคม
3.การเล่นและทำงานร่วมกับผู้อื่น
ด้านภาษา
4.การใช้ภาษา
|
ขั้นนำ
-เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับปริศนาคำทายอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ไม่มีประโยชน์
“อะไรเอ่ย มีตัวสีส้ม บนหัวสีเขียว กระต่ายชอบเคี้ยว”
“อะไรเอ่ย กินแล้วซาบซ่า ชื่นใจ โทษมากมายมหาศาล”
ขั้นสอน
1.เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับปริศนาคำทายอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ไม่มีประโยชน์
2.เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ไม่มีประโยชน์ว่ามีอะไรบ้าง
พร้อมยกตัวอย่าง
3.ครูนำอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ไม่มีประโยชน์มาให้เด็กดู
4.ครูขอตัวแทนเด็กออกมาช่วยแยกประเภทของอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ไม่มีประโยชน์ลงในตะกร้า
ขั้นสรุป
-ครูและเด็กร่วมกันสรุปทบทวนอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
|
-ปริศนาคำทาย
-อาหารที่มีประโยชน์
-อาหารที่ไม่มีประโยชน์
|
สังเกตพฤติกรรม
1.เด็กเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้
2.เด็กจำแนกอาหารอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้
3.เด็กสนทนาและแสดงความคิดเห็นกับครูได้
|
-ภาพถ่ายขณะทำกิจกรรม
-ปริศนาคำทาย
|
การสะท้อนตนเองหลังการสอน..............................................................................................................................................................................................................................................................................................
รูปภาพบรรยสกาศในการเรียน
ประเมิน
ประเมินอาจารย์ : สดใส ยิ้มเเต่งตัวสุภาพเรียบร้อย
ประเมินเพื่อน : เพื่อนให้ความร่วมมือดี
ประเมินตัวเอง : ตั้งใจเรียน ฟังอาจารย์เเละให้ความร่วมมือ